วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2559

Gray Card 18% - #ซัมเกรย์

































 01:25น.



โทรศัพท์ที่แผดเสียงดังลั่นไปทั่วห้องทำให้ผมตื่นขึ้นมากลางดึก หันไปมองนาฬิกาที่บอกเวลาตีหนึ่งเกือบครึ่ง เป็นสาเหตุให้ต้องรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและคว้าเอากระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือ โทรเรียกแท็กซี่เพื่อตรงไปยังที่ประจำของเขา ฟังจากน้ำเสียงแล้วปลายสายคงเมาแล้วเป็นแน่ และการจะตามหาเขาไม่ใช่เรื่องยากอะไร สักที่ในฮงแด ..









เกรย์ โปรดิวเซอร์และศิลปินมากความสามารถคนนั้น

เกรย์ ผู้แสนจะหล่อเหลาในสายตาสาวๆคนนั้น

เกรย์ ผู้มีภาพลักษณ์เงียบขรึมคนนั้น










สิ่งที่คนอื่นมองเห็น แตกต่างจากสิ่งที่เป็นเมื่อเขาอยู่กับผม เวลาเราอยู่ด้วยกัน เขาเป็นแค่ อีซองฮวา คนธรรมดา ๆ คนหนึ่งเท่านั้น  เขาเป็นหลายสิ่งหลายอย่างของผม และกลายมาเป็นส่วนสำคัญในชีวิตผมในช่วงหลังมานี้ เขาเป็นจุดเริ่มต้นในหลายๆอย่าง เป็นคนที่ทำให้ผมตัดสินใจมาอยู่ AOMG ได้พบกับโลกใหม่ ๆ ผู้คนใหม่ ๆ เขาทำให้ผมหัวเราและยิ้มได้กับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ









และที่สำคัญ เขาฉุดผมออกมาจากความเศร้า ออกมาจากการขังตัวเอง ปิดกั้นกับสิ่งที่เรียกว่าความรัก เพราะครั้งสุดท้ายที่รักมันจบลง ได้ทิ้งรอยแผลไว้ในใจแสนสาหัส ผมเคยคิดว่าจะได้ใช้ชีวิตแต่งงานกับคนรัก ได้มีโอกาสเป็นสามีและพ่อที่ดี แต่น่าเสียดาย ที่วันนั้นไม่เคยมาถึง หลังจากที่มันจบลง ผมกลายเป็นเพลย์บอยอย่างเต็มตัว ปาร์ตี้คือความสุขอีกหนึ่งอย่าง หรือแม้กระทั่งการได้พบกับสาวๆมากหน้าหลายตาก็ทำให้รู้สึกดีไม่น้อย เขาผิดกับคนอื่นที่คอยบอกให้ผมดื่มน้อยลงเที่ยวน้อยลง แต่เขาเป็นคนที่คอยกอดคอผมดื่ม และสนุกด้วยกัน ไปในทุกหนทุกแห่ง  ช่วงแรก ๆ ผมดื่มหนักจนป่วยไปเลย แต่หลังๆมานี้เทิร์นโปรแล้ว ต่อให้งานเช้าแค่ไหนก็ต้องตื่นไปทำงาน และคงเป็นเพราะผมสนุกกับการทำงานมากขึ้นด้วยล่ะมั้ง









กลับกลายเป็นว่า ผมเสพติด “เกรย์” เข้าให้แล้ว เขาเคยบอกว่าที่มาของชื่อเกรย์ คือระว่างสีขาวกับสีดำ มีเฉดสีเทาอยู่มากมายจนนับไม่ถ้วน เหมือนกับตัวเขาที่มีหลายหลายด้าน แต่ต่างกัน ผมกลับคิดเสมอว่าเขาคือเฉดเทากลาง เป็นเฉดที่ทำให้คนเราแยกแสงและสีต่างๆออกจากกันได้ชัดที่สุด เขาเป็นแบบนั้น เป็นคนสำคัญที่สุด เหมือนกับสีที่สำคัญที่สุดในทุกเฉดสี











พอมาถึงผมก็พบว่าเขาเมาพับไปแล้ว ไม่บ่อยนักที่ซองฮวาจะอยู่ในสภาพนี้ เขาชอบออกมาหาที่ดื่มคนเดียวเงียบ ๆ เมื่อมีเรื่องไม่สบายใจ ผมจัดการพาคนเมามาส่งถึงบ้าน  บ้านของซองฮวาเป็นห้องโล่งๆที่ไม่ค่อยมีของตกแต่งอะไรมากนัก แสงไฟวอร์มไลท์ที่แสนจะขัดกันกับบุคลิก แต่ก่อนที่ผมจะได้คิดอะไรเรื่อยเปื่อยไป คนในอ้อมแขนก็ขยับตัวยุกยิก คงจะรู้สึกตัวแล้วอาการขืนตัวเองอย่างรุนแรงก็ทำให้ผมได้สติ อาการแบบนี้ต้องรีบพาไปห้องน้ำอย่างด่วน ไม่งั้นอะไรที่หมอนี่จับกรอกเข้าไปคงได้ออกมากองที่พื้นแน่ 













ภาพคนเมาหมดสภาพกอดชักโครกอ้วกทำให้ผมแอบขำ รอจนซองฮวาทำธุระของเขาเสร็จแล้วค่อยไปสะกิด พอมาอยู่ในที่สว่างๆแบบนี้ผมถึงได้สังเกตุว่าใบหน้าของเขาแดงก่ำขนาดไหน หัวคิ้วขมวดเข้ากันแน่น ผมจัดการเอาผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าให้เขา ผมเห็นว่าเขาเบ้หน้าน้อยๆ ก็แน่ล่ะน้ำเย็น










“ฮื่อ... ปวดหัว”








“ใครใช้ให้ดื่มเยอะ ทำไมไปเมาคนเดียวแบบนั้น”









“ ... ”











“มีอะไรอยากบอกไหม”










“อือ ง...ง่วง ไปนอนแล้ว”  อยู่ๆเขาก็บ่ายเบี่ยงและลุกพรวดจะออกจากห้องน้ำไป แต่ด้วยความไวมือผมก็คว้าตัวเขาไว้ได้ทัน











“เปลี่ยนชุดก่อน”











ผมขอให้เขาเปลี่ยนชุดก่อน เพราะชุดที่เขาใส่ตอนนี้ไม่ได้เหมาะกับการนอนเท่าไหร่นักหรอก แม้ว่าซองฮวาจะเคยชินกับการเมาหลับไปทั้งแจคเก็ตหนังตัวโปรด แต่ตอนนี้ผผมอยู่ด้วย ไม่ยอมให้เขาทำตัวเป็นเด็กขี้เซาแบบนั้นหรอก









“ฮื่อ ...อ อ”








ในเมื่อเขาเอาแต่ส่งเสียงแปลก ๆ แบบนั้น ผมคงต้องใช้ไม้ตาย











“งั้นเปลี่ยนให้”









คนตรงหน้าก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด เขาปรือตาแล้วมองหน้าผมนิ่งๆก็เท่านั้น ราวกับเชื้อเชิญ ผมขยับตัวไปที่ตู้เสื้อผ้า หยิบเอาเสื้อนอนสีขาวและกางเกงนอนสีเทามาแบบเร็วๆ ก่อนที่ซองฮวาจะกลับคาห้องน้ำไปซะก่อน  ผมจัดการถอดแจคเก็ตให้เขา ก่อนจะตามด้วยเสื้อตัวใน และจัดการสวมเสื้อนอนให้เขา แต่พอเลื่อนมือจะปลดเข็มขัดเขากลับรั้งมือผมเอาไว้ก่อน  คงกะจะลองใจว่าผมจะกล้าทำจริงๆไหม แต่พอเอาเข้าจริงก็ยังมีสติพอที่จะอายอยู่นี่เอง











“อ..ออกไปก่อน”











ผมทำตามคำขอคนเมาออกมานอนรอที่เตียงนอนสีขาวสะอาด ตอนนี้ดึกเกินกว่าที่ผมจะกลับแล้ว ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเช็คให้แน่ใจอีกครั้งว่าพรุ่งนี้ไม่มีตารางงานอะไร ระหว่างนั้นซองฮวาก็เดินเซ ๆ ออกมาจากห้องน้ำแล้วล้มตัวนอนลงข้างๆ โดยไม่พูดอะไร เขาทำแค่นอนตะแคงมาทางผมแล้วหลับตาลง ผมวางมือถือลงและหันไปโอบรอบตัวเขาเอาไว้ ระหว่างเรามีเพียงห้าห่มกั้น หากแต่แนบชิดกว่านั้นก็เคยมาแล้ว แต่วันนี้ผมอยากเพียงแค่โอบกอดเขาไว้และหลับไหลไปด้วยกันจนถึงเช้าวันใหม่ ผมไม่รู้ว่าเขาเจอเรื่องร้ายอะไรมาในวันนี้และเมื่อเขาเลือกท่ะไม่บอก ผมก็จะตามใจเขา ไม่คาดคั้นเอาอะไรตอนนี้ คนอย่างซองฮวาน่ะ ชอบเก็บทุกอย่างเอาไว้แล้วทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เมื่อไหร่ที่เขาอยากเล่า เขาจะเล่าออกมาเอง











ผมกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นเมื่อเขาซุกตัวเข้ามามากขึ้น ก็อดไม่ได้ที่จะแนบริมฝีปากไปที่หน้าผาก และเลื่อนลงมาเรื่อยๆจนถึงกลีบปากที่เผยอขึ้นน้อย ๆ ผมฉวยโอกาสส่งลิ้นเข้าไปสำรวจในโพรงปปากกของซองฮวา และก็พบกว่าระหว่างที่ผมนอนรอเขาได้ล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อย ผมสัมผัสได้ถึงกลิ่นมิ้นต์อ่อนๆ จากยาสีฟันของเขา เขาตอบรับสัมผัสผมด้วยมือที่เอื้อมมาแตะที่ใบหูผม ทำให้ผมตกใจจนเกือบผละออกมา มุมนี้ของเขาทำให้ผมตื่นเต้นได้เสมอ  เมื่อชิมรสจนพอใจแล้วผมก็ถอนริมฝีปากออกมาพร้อมกับหัวใจที่เต้นผิดจังหวะ  ความสัมพันธ์ของเราไม่มีชื่อเรียก เราแค่ทำอย่างที่พอใจ และปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไป











เราไม่ใช่ทั้งเพื่อนร่วมงาน



เราไม่ใช่เจ้านานและลูกน้อง



เราไม่ใช่พี่น้อง



เราไม่ใช่เพื่อน



แล้วเราเป็นอะไรกันล่ะ ?






ผมเองก็ตอบไม่ได้





เอาเป็นว่า กีซอกเป็นของซองฮวา และซองฮวาเป็นของกีซอก ก็แล้วกัน







เวลาทั้งชีวิตที่เหลือ ผมอยากมีไว้เพื่อศึกษาเฉดสีเทาคนนี้ให้ครบทุกเฉด และ เป็นของเขา





ของเขาตลอดไป ...





_______________________________________________________________




ฟิคนี้เกิดจากการแก้บน และความกาว แง๊ ref มาจากคลิปสัมภาษณ์และรายการต่างๆ อยากให้ไปดูกัน พิเกรย์น่ารัก  ส่วนเรื่องรักครั้งเก่าของพี่ซัมนี่ ... ข้้ามไปค่ะ



ด้วยรัก

hastag : #ฟิคfxxg  


หรือเมนชั่นไปด่าได้ค่ะ แต่อย่าแรง @silencenight