01:25น.
โทรศัพท์ที่แผดเสียงดังลั่นไปทั่วห้องทำให้ผมตื่นขึ้นมากลางดึก
หันไปมองนาฬิกาที่บอกเวลาตีหนึ่งเกือบครึ่ง เป็นสาเหตุให้ต้องรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและคว้าเอากระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือ
โทรเรียกแท็กซี่เพื่อตรงไปยังที่ประจำของเขา
ฟังจากน้ำเสียงแล้วปลายสายคงเมาแล้วเป็นแน่ และการจะตามหาเขาไม่ใช่เรื่องยากอะไร
สักที่ในฮงแด ..
เกรย์
โปรดิวเซอร์และศิลปินมากความสามารถคนนั้น
เกรย์
ผู้แสนจะหล่อเหลาในสายตาสาวๆคนนั้น
เกรย์
ผู้มีภาพลักษณ์เงียบขรึมคนนั้น
สิ่งที่คนอื่นมองเห็น
แตกต่างจากสิ่งที่เป็นเมื่อเขาอยู่กับผม เวลาเราอยู่ด้วยกัน เขาเป็นแค่ อีซองฮวา
คนธรรมดา ๆ คนหนึ่งเท่านั้น
เขาเป็นหลายสิ่งหลายอย่างของผม
และกลายมาเป็นส่วนสำคัญในชีวิตผมในช่วงหลังมานี้ เขาเป็นจุดเริ่มต้นในหลายๆอย่าง
เป็นคนที่ทำให้ผมตัดสินใจมาอยู่ AOMG ได้พบกับโลกใหม่ ๆ ผู้คนใหม่ ๆ
เขาทำให้ผมหัวเราและยิ้มได้กับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
และที่สำคัญ
เขาฉุดผมออกมาจากความเศร้า ออกมาจากการขังตัวเอง ปิดกั้นกับสิ่งที่เรียกว่าความรัก
เพราะครั้งสุดท้ายที่รักมันจบลง ได้ทิ้งรอยแผลไว้ในใจแสนสาหัส ผมเคยคิดว่าจะได้ใช้ชีวิตแต่งงานกับคนรัก
ได้มีโอกาสเป็นสามีและพ่อที่ดี แต่น่าเสียดาย ที่วันนั้นไม่เคยมาถึง หลังจากที่มันจบลง ผมกลายเป็นเพลย์บอยอย่างเต็มตัว
ปาร์ตี้คือความสุขอีกหนึ่งอย่าง
หรือแม้กระทั่งการได้พบกับสาวๆมากหน้าหลายตาก็ทำให้รู้สึกดีไม่น้อย เขาผิดกับคนอื่นที่คอยบอกให้ผมดื่มน้อยลงเที่ยวน้อยลง
แต่เขาเป็นคนที่คอยกอดคอผมดื่ม และสนุกด้วยกัน ไปในทุกหนทุกแห่ง ช่วงแรก ๆ ผมดื่มหนักจนป่วยไปเลย
แต่หลังๆมานี้เทิร์นโปรแล้ว ต่อให้งานเช้าแค่ไหนก็ต้องตื่นไปทำงาน
และคงเป็นเพราะผมสนุกกับการทำงานมากขึ้นด้วยล่ะมั้ง
กลับกลายเป็นว่า
ผมเสพติด “เกรย์” เข้าให้แล้ว เขาเคยบอกว่าที่มาของชื่อเกรย์
คือระว่างสีขาวกับสีดำ มีเฉดสีเทาอยู่มากมายจนนับไม่ถ้วน
เหมือนกับตัวเขาที่มีหลายหลายด้าน แต่ต่างกัน ผมกลับคิดเสมอว่าเขาคือเฉดเทากลาง
เป็นเฉดที่ทำให้คนเราแยกแสงและสีต่างๆออกจากกันได้ชัดที่สุด เขาเป็นแบบนั้น
เป็นคนสำคัญที่สุด เหมือนกับสีที่สำคัญที่สุดในทุกเฉดสี
พอมาถึงผมก็พบว่าเขาเมาพับไปแล้ว
ไม่บ่อยนักที่ซองฮวาจะอยู่ในสภาพนี้ เขาชอบออกมาหาที่ดื่มคนเดียวเงียบ ๆ
เมื่อมีเรื่องไม่สบายใจ ผมจัดการพาคนเมามาส่งถึงบ้าน บ้านของซองฮวาเป็นห้องโล่งๆที่ไม่ค่อยมีของตกแต่งอะไรมากนัก แสงไฟวอร์มไลท์ที่แสนจะขัดกันกับบุคลิก
แต่ก่อนที่ผมจะได้คิดอะไรเรื่อยเปื่อยไป คนในอ้อมแขนก็ขยับตัวยุกยิก คงจะรู้สึกตัวแล้วอาการขืนตัวเองอย่างรุนแรงก็ทำให้ผมได้สติ
อาการแบบนี้ต้องรีบพาไปห้องน้ำอย่างด่วน
ไม่งั้นอะไรที่หมอนี่จับกรอกเข้าไปคงได้ออกมากองที่พื้นแน่
ภาพคนเมาหมดสภาพกอดชักโครกอ้วกทำให้ผมแอบขำ
รอจนซองฮวาทำธุระของเขาเสร็จแล้วค่อยไปสะกิด
พอมาอยู่ในที่สว่างๆแบบนี้ผมถึงได้สังเกตุว่าใบหน้าของเขาแดงก่ำขนาดไหน
หัวคิ้วขมวดเข้ากันแน่น ผมจัดการเอาผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าให้เขา ผมเห็นว่าเขาเบ้หน้าน้อยๆ
ก็แน่ล่ะน้ำเย็น
“ฮื่อ...
ปวดหัว”
“ใครใช้ให้ดื่มเยอะ
ทำไมไปเมาคนเดียวแบบนั้น”
“
... ”
“มีอะไรอยากบอกไหม”
“อือ
ง...ง่วง ไปนอนแล้ว”
อยู่ๆเขาก็บ่ายเบี่ยงและลุกพรวดจะออกจากห้องน้ำไป
แต่ด้วยความไวมือผมก็คว้าตัวเขาไว้ได้ทัน
“เปลี่ยนชุดก่อน”
ผมขอให้เขาเปลี่ยนชุดก่อน
เพราะชุดที่เขาใส่ตอนนี้ไม่ได้เหมาะกับการนอนเท่าไหร่นักหรอก
แม้ว่าซองฮวาจะเคยชินกับการเมาหลับไปทั้งแจคเก็ตหนังตัวโปรด แต่ตอนนี้ผผมอยู่ด้วย
ไม่ยอมให้เขาทำตัวเป็นเด็กขี้เซาแบบนั้นหรอก
“ฮื่อ
...อ อ”
ในเมื่อเขาเอาแต่ส่งเสียงแปลก
ๆ แบบนั้น ผมคงต้องใช้ไม้ตาย
“งั้นเปลี่ยนให้”
คนตรงหน้าก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด
เขาปรือตาแล้วมองหน้าผมนิ่งๆก็เท่านั้น ราวกับเชื้อเชิญ ผมขยับตัวไปที่ตู้เสื้อผ้า
หยิบเอาเสื้อนอนสีขาวและกางเกงนอนสีเทามาแบบเร็วๆ
ก่อนที่ซองฮวาจะกลับคาห้องน้ำไปซะก่อน ผมจัดการถอดแจคเก็ตให้เขา
ก่อนจะตามด้วยเสื้อตัวใน และจัดการสวมเสื้อนอนให้เขา
แต่พอเลื่อนมือจะปลดเข็มขัดเขากลับรั้งมือผมเอาไว้ก่อน คงกะจะลองใจว่าผมจะกล้าทำจริงๆไหม
แต่พอเอาเข้าจริงก็ยังมีสติพอที่จะอายอยู่นี่เอง
“อ..ออกไปก่อน”
ผมทำตามคำขอคนเมาออกมานอนรอที่เตียงนอนสีขาวสะอาด
ตอนนี้ดึกเกินกว่าที่ผมจะกลับแล้ว
ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเช็คให้แน่ใจอีกครั้งว่าพรุ่งนี้ไม่มีตารางงานอะไร
ระหว่างนั้นซองฮวาก็เดินเซ ๆ ออกมาจากห้องน้ำแล้วล้มตัวนอนลงข้างๆ โดยไม่พูดอะไร
เขาทำแค่นอนตะแคงมาทางผมแล้วหลับตาลง ผมวางมือถือลงและหันไปโอบรอบตัวเขาเอาไว้
ระหว่างเรามีเพียงห้าห่มกั้น หากแต่แนบชิดกว่านั้นก็เคยมาแล้ว
แต่วันนี้ผมอยากเพียงแค่โอบกอดเขาไว้และหลับไหลไปด้วยกันจนถึงเช้าวันใหม่
ผมไม่รู้ว่าเขาเจอเรื่องร้ายอะไรมาในวันนี้และเมื่อเขาเลือกท่ะไม่บอก
ผมก็จะตามใจเขา ไม่คาดคั้นเอาอะไรตอนนี้ คนอย่างซองฮวาน่ะ
ชอบเก็บทุกอย่างเอาไว้แล้วทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่เมื่อไหร่ที่เขาอยากเล่า เขาจะเล่าออกมาเอง
ผมกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นเมื่อเขาซุกตัวเข้ามามากขึ้น
ก็อดไม่ได้ที่จะแนบริมฝีปากไปที่หน้าผาก
และเลื่อนลงมาเรื่อยๆจนถึงกลีบปากที่เผยอขึ้นน้อย ๆ
ผมฉวยโอกาสส่งลิ้นเข้าไปสำรวจในโพรงปปากกของซองฮวา
และก็พบกว่าระหว่างที่ผมนอนรอเขาได้ล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อย
ผมสัมผัสได้ถึงกลิ่นมิ้นต์อ่อนๆ จากยาสีฟันของเขา
เขาตอบรับสัมผัสผมด้วยมือที่เอื้อมมาแตะที่ใบหูผม ทำให้ผมตกใจจนเกือบผละออกมา มุมนี้ของเขาทำให้ผมตื่นเต้นได้เสมอ
เมื่อชิมรสจนพอใจแล้วผมก็ถอนริมฝีปากออกมาพร้อมกับหัวใจที่เต้นผิดจังหวะ ความสัมพันธ์ของเราไม่มีชื่อเรียก
เราแค่ทำอย่างที่พอใจ และปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไป
เราไม่ใช่ทั้งเพื่อนร่วมงาน
เราไม่ใช่เจ้านานและลูกน้อง
เราไม่ใช่พี่น้อง
เราไม่ใช่เพื่อน
แล้วเราเป็นอะไรกันล่ะ
?
ผมเองก็ตอบไม่ได้
เอาเป็นว่า
กีซอกเป็นของซองฮวา และซองฮวาเป็นของกีซอก ก็แล้วกัน
เวลาทั้งชีวิตที่เหลือ
ผมอยากมีไว้เพื่อศึกษาเฉดสีเทาคนนี้ให้ครบทุกเฉด และ เป็นของเขา
ของเขาตลอดไป
...
ฟิคนี้เกิดจากการแก้บน และความกาว แง๊ ref มาจากคลิปสัมภาษณ์และรายการต่างๆ อยากให้ไปดูกัน พิเกรย์น่ารัก ส่วนเรื่องรักครั้งเก่าของพี่ซัมนี่ ... ข้้ามไปค่ะ
ด้วยรัก
hastag : #ฟิคfxxg
หรือเมนชั่นไปด่าได้ค่ะ แต่อย่าแรง @silencenight
แงงงงงงง คุณซองฮวาเมาแบบนั้นได้ยังไงคะ (เหมือนแมวที่โดนกวนเวลาหลับเลย) แล้วเป็นไงพี่เขาจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ล่ะ หัวใจจะวายมากตอนที่จะเปลี่ยนกางเกงให้ขอบคุณที่คุณซองฮวามีสติบอกให้คุณกีซอกออกไปค่ะ /เอามือทาบอก แต่ไม่รอด แดดิ้นตายไปเลยตอนจูบ5555555555555555 เขินมาก ฮือ นี่มันบ้าไปแล้ว ตอนกอดด้วยแบบนอนกอดกันแล้วหลับไป *กรีดร้องลั่นทุ่ง* คุณกีซอกอบอุ่นและโรแมนติกอะไรขนาดนั้นคะ! เอาล่ะค่ะ เราหวีดเป็นผีบ้ามากควรหยุด55555555555 โดยรวมแล้วเราชอบมากเลยค่ะ ภาษา การบรรยาย บทไดอะล็อกที่มีไม่เยอะ ให้เรื่องเป็นไปด้วยการบรรยายไม่เยิ่นเย้อเข้าใจและอ่านง่ายดี (หรือเราชอบเรื่องที่มีการบรรยายเยอะก็ไม่รู้) อีกอย่างคือชอบความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ดูคลุมเคลือไม่มีความชัดเจนแต่แค่อยู่ด้วยกัน เป็นของกันและกัน มันดูมีอะไรดี เหมือนซ่อนอะไรสักอย่างไว้ค่อยๆ ค้นหากันไปเรื่อยๆ ไม่รู้จะบอกอะไรแล้วค่ะนอกจากชอบ ชอบแบบมากๆ แงงง ขอบคุณที่เขียนเรื่องนี้มาให้อ่านนะคะ
ตอบลบดีใจมากๆเลยค่ะที่ชอบ คือเรากังวลมาก ให้เพื่อนช่วยบรูฟด้วยเพราะรู้สึกว่ามือตกมากค่ะ เราอยู่ในช่วงที่ไม่อยากแต่งอะไรเลย แต่พอได้บนไว้ก็อยากแต่งแก้บนค่ะ ได้กำลังใจจากคอมเม้นท์นี้เยอะเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ
ลบตอนจะเปลี่ยนเสื้อให้นี่แบบ โอ้วมายก้อช ตรงกางเกงจะเอาจริงหรือคะ ยังดีนะที่เจ้าตัวพอจะเหนียมอายไปเปลี่ยนเอง ไม่งั้นล่ะก็ อืม..อืม.. แต่ชอบประโยคตอนจบจังค่ะที่ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์นี้มันเรียกว่าอะไร รู้แค่ว่าทั้งคู่เป็นของกันและกันก็พอ ดีงามจริงๆ ค่ะ
ตอบลบฮื่อสนุกมากเลยยยน่าอ่านมาก อ่านแล้วอยากอ่านต่อ คุณกีซอกอ่อนโยนจัง
ตอบลบ