วันพุธที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
Turtleneck - #ซัมเกรย์
เกรย์อปป้าชอบใส่เสื้อคอเต่าจังนะ
---'--------'------'------
"คุณซองฮวา มาคุยกันหน่อยสิ"
เสียงเย็นเยียบแถมแหบต่ำขนาดนั้น ไม่ต้องบอกก็รู้ครับว่าต้องเป็นเรื่องไม่ดีแน่ บวกกับการพูดเพราะๆแบบนั้นแสดงว่าคนพูดต้องหงุดหงิดอะไรมากๆแน่ๆ ผมค่อยเดินออกไปยืนอยู่ตรงโซฟาบุหนังสีเข้ม ที่มีคนนั่งทำหน้ายักษ์อยู่ในมือเขาถือสมาร์ทโฟนของผม
"ว่า"
"หว่านเสน่ห์ไปทั่วนักนะ"
"เอ๋ พูดเรื่องอะไรเนี่ย"
"ก็เรื่องที่SNSของคุณซองฮวามีแต่หนุ่มๆเข้ามาทักทายนี่ไงล่ะ"
อ่า.... หึงสินะ
"ก็คุยงานนี่" ผมรีบทิ้งตัวลงบนโซฟาข้างๆตัวเขา
"งาน งาน อ๋อพรุ่งนี้ไปงานนี่ มีนัดมาเจอกันด้วยนี่"
"บ้าน่า ไร้สาระ"
"ไร้สาระตรงไหน ก็เพราะบอกใครไม่ได้ เลยต้องมานั่งหวงอยู่นี่ไง นายไม่เคยเข้าใจอะไรหรอก"
อ้าว อยู่ดี ๆ ลากมาดราม่าเฉยเลย ก็พอเข้าใจความอึดอัดหรอกครับ คบหรือไม่คบ บอกหรือไม่บอกคนอื่น เรื่องของเรามันก็ไม่ได้ต่างกันนัก ในเมื่อเราตกลงกันว่าจะแลกเปลี่ยน ความต้องการที่ตรงกัน แต่เรื่องหึงหวงพูดเลยว่าไม่ตรงกัน ในเมื่อผมให้อิสระกับเขา เขาก็ควรให้อิสระกับผมบ้าง
"เราคุยกันแล้วนี่ว่าผมกับกีซอกฮยอง เราจะเป็นแค่friend wiht benefitsกัน อย่างี่เง่าหน่อยเลยน่า"
พูดไปแบบนั้นก็รู้ดีว่าคำพูดนั้นมันต่างทำร้ายเราทั้งคู่
"ไม่ นายรู้ดีว่าฉันอยากเป็นมากกว่านั้น ฉันอยากเป็นคนที่ได้ฟังนายเล่าเรื่องตลกๆอยากเป็นคนที่นั่งดูหนังบนโซฟาตัวนี้กับนายในวันเสาร์สุดท้ายของเดือน อยากเป็นคนที่นายไว้ใจจะคุยเรื่องทุกข์ใจด้วย และฉันรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่ฉันก็อยาก อยากจะจับมือนายต่อหน้าใครๆ เพื่อให้ทุกคนรู้ว่านาย เป็นของฉัน"
คำพูดยาวเหยียดของเขาลอยผ่านโสตประสาทของผมไปเสียเฉยๆ ทันทีที่เขาเอี้ยวตัวมา ใช้สองแขนคร่อมร่างทั้งร่างของผมไว้ ไม่ใช่ว่าไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แต่คำพูดที่เหมือนกับสารภาพรักนั้นทำให้ระหว่างเรามันเปลี่ยนไป ราวกับว่ากำแพงใสๆที่คั่นกลางระหว่างเรามันพังทลายลงแล้ว ผมเคยคิด แต่คิดยังไงก็คิดไม่ตกว่าระหว่างเรามันคืออะไรกันแน่ อาจจะเป็นเพราะเราแค่รักสนุก แค่เราต่างก็ไม่มีใคร แต่วันนี้เขาตอบคำถามในใจของผมแล้ว ว่าเราต้องการกันและกัน
ดวงตาอันทรงเสนห์และน่าหลงไหลนั้นจ้องลึกลงมา ทอประกายแสงที่อบอุ่นจนผมอดไม่ได้ที่จะหลบตาเขา หลีกใบหน้าคมคายของเขาที่ใกล้เข้ามา ผมเบี่ยงหน้าไปทางขวาก็เห็นเพียงแต่ผนังโซฟาโง่ๆที่ผมมักจะทิ้งตัวลงนอนเป็นประจำ เขาไม่ปล่อยให้ผมได้คิดอะไรเรื่อยเปื่อยนานนัก ก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสนิ่มหยุ่นที่แนบลงตรงต้นคอ สัมผัสอุ่นๆและเฉอะแฉะสักพักมันก็แปรเปลี่ยนเป็นคสามเจ็บแปลบๆ เพราะเจ้าของกลีบปากนั้นจงใจดดและขบอย่างแรงจนผมต้องขืนตัวและทุบเข้าที่อกเขาอย่างแรง แต่เขารู้ดีว่าต้องรับมือกับสถานดารณ์นี่ยังไง เมื่อสัมผัสชื้นแฉะนั้นเคลื่อนจากคอมาตรงปาก ลากไล้ไปเรื่อยๆจนผมเลิกนับ และปล่อยให้คลื่นแห่งความสุขพาเราไปไกลจนสุดขอบ สัมผัสที่คุ้นเคยทำให้ร่างกายผมตอบรับอย่างอัตโนมัติ ช่ำชองแต่บางคราวก็อ่อนหัด ดุด้นแต่บางครั้งก็อ่อนโยน เขาเป็นอย่างนั้นเสมอ เดาอารมณ์ยาก แต่ก็น่าค้นหา
อย่างเช่นทุกครั้ง เขามักจะมอบความพึงใจในรสรักเสมอ อาาาา..กีซอกจิงทำให้ผมเสียนิสัยไปทุกทีแล้วสินะ
_____
หลังจากที่ผมตื่นมาอีกทีก็มานอนอยู่บนเตียงแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้อยู่ด้วย ผมพาร่างตัวเองเดินเข้าห้องน้ำ ก่อนจะได้ทำธุระอะไร หันไปมองกระจกก็พบร่องรอยที่เป็นหลักฐานชี้ชัดที่คนร้ายได้ฝากเอาไว้ สงสัยว่าวันนี้ออกไปข้างนอกต้องแต่งตัวมิดชิดอย่างทุกทีสิน่า ...
----
ต่อจาก เรื่อง 18% แต่เป็นพาร์ทคุณซองฮวาค่ะ
จากงาน Louis Vuitton นี่สวีทกันมากฮ่ะ ทนไม่ไหว บวกกับค้นพบว่าพิเกรย์ชอบใสเสื้อคอเต่าจัง 55555
ผิดพลาดตรงไหนก็ขออำไพค่ะพิมพ์ในมือถือนะ
ฟิคสั้นแท็กเดิมจ้า #ฟิคfxxg
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น